“ผลิตสินค้าพลาสติก – การรีไซเคิล” เรื่องควรรู้ในยุคนี้

            เมื่อปัญหาโลกร้อนหนักขึ้น พลาสติกได้กลายเป็นตัวร้ายที่ถูกเพ่งเล็ง ธุรกิจหลายอย่างเริ่มหันไปลองใช้สินค้าทดแทนกันมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้พลาสติกเหมือนเดิม เพราะมันสิ้นเปลืองกว่า เช่น กระดาษที่โดนน้ำแล้วพังง่าย ทำให้หลายคนตระหนักว่าการเลิกใช้พลาสติกไปเลยอาจไม่ใช่วิธีที่ดีสุด แต่การใช้พลาสติกจากผู้ผลิตสินค้าพลาสติกให้คุ้มค่า หยิบมาใช้ซ้ำหลายครั้ง หรือนำกลับมารีไซเคิล จะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

พลาสติกดีอย่างไร

ข้อดีของพลาสติกที่ทำให้ปัจจุบันยังมีผู้ผลิตสินค้าพลาสติกออกสู่ตลาดอยู่เรื่อย ๆ คือ ช่วยป้องกันการซึมของวัตถุแปลกปลอมภายนอกได้เป็นอย่างดี เหนียว ทนทาน น้ำหนักเบา ไม่นำความร้อน ไม่นำไฟฟ้า และไม่เป็นสนิม

แบ่งประเภทตามการรีไซเคิล

                ในชีวิตประจำวันของคนเราจะมีโอกาสใช้พลาสติกกันบ่อยครั้ง รู้หรือไม่ว่ามันแบ่งตามสัญลักษณ์การรีไซเคิลได้ถึง 7 ประเภท ดังนี้

สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 1

ได้แก่ Polyethylene Terephthalate (PET / PETE) พลาสติกปลอดภัยสูง รีไซเคิลได้ 100% ใส เนื้อเหนียว ทนต่อแรงกระแทก และป้องกันการแพร่ผ่านของก๊าซได้ดี แต่ต้องใช้ครั้งเดียวทิ้ง และไม่ควรโดนความร้อน เพราะอาจทำให้สารเคมีละลายได้ นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร โดยผู้ผลิตสินค้าพลาสติกจะทำเป็นขวดน้ำ ขวดซอส กล่องขนม และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้บรรจุแอลกอฮอล์

สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 2

คือพลาสติกประเภท HDPE (High density polyethylene) มีความแข็งแรง ความหนาแน่นสูง ทนความร้อนและเย็น ทนกรดด่าง ใช้ซ้ำได้ ป้องกันความชื้นได้ดี และรีไซเคิลได้สูงสุด 10 ครั้ง พบได้ในพวกขวดเครื่องสำอาง ถังขยะ ถังน้ำมันเครื่อง เก้าอี้ ของเล่น

สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 3

เป็นพลาสติกประเภท Polyvinyl Chloride (PVC) มีความแข็งแรงมาก ป้องกันไขมันได้ดี ผู้ผลิตสินค้าพลาสติกมักนิยมผลิตเป็นอุปกรณ์ในงานก่อสร้าง เช่น ท่อในงานประปา ฉนวนหุ้มสายไฟ ฟิล์มห่อเนื้อสัตว์ รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์บางอย่างด้วย

สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 4

หรือที่เรียกว่า LDPE (Low density polyethylene) พลาสติกโปร่งแสง ความหนาแน่นต่ำ ปลอดภัยสูง ใช้กับอาหารได้ แต่รีไซเคิลยาก เช่น ถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟม บรรจุภัณฑ์อาหารแช่แข็ง เป็นต้น

สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 5

Polypropylene (PP) เป็นพลาสติกที่มีความต้องการใช้เยอะ เพราะเบาที่สุด แต่แข็งแรงมาก ทนต่อความร้อนและแรงกระแทก เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารที่นำเข้าในไมโครเวฟได้ กล่องโยเกิร์ต ถุงร้อน หลอดดูด เครื่องครัว ฉนวนไฟฟ้า เป็นต้น

สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 6

นั่นก็คือ Polystyrene (PS) พลาสติกราคาถูก โปร่งใส เปราะบาง น้ำหนักเบา ขึ้นรูปง่าย แต่ย่อยสลายและรีไซเคิลได้ยาก ปัจจุบันด้วยกระแสรักษ์โลกจากผู้บริโภค ทำให้ผู้ผลิตสินค้าพลาสติกมีการผลิตน้อยลงแล้ว แต่ยังสามารถพบได้บ้างในพวกแผ่น CD, DVD กล่องโฟม อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 7

หมายถึงพลาสติกที่นอกเหนือ 6 ข้อข้างต้น ได้แก่ Nylon (PA) ที่นำมาผลิตเชือกไนล่อน เสื้อผ้า ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) อย่างพวกตัวต่อเลโก้ หมวกกันน็อค ท่อส่งก๊าซ อุปกรณ์กีฬา Polycarbonate (PC) พบได้ในการผลิตวัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แว่นตานิรภัย และ Acrylic (PMMA) ใช้ทำตู้ปลา ป้ายโฆษณา เลนส์แว่นตา เป็นต้น

                เห็นไหมว่าพลาสติกและผู้ผลิตสินค้าพลาสติกนั้นไม่ใช่ตัวร้ายเสมอไป เพราะสร้างประโยชน์ให้พวกเราในหลายด้าน ถ้าอยากเป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม คุณก็สามารถทำได้โดยใช้มันซ้ำเท่าที่จะใช้ได้ แล้วร่วมกันแยกขยะ พร้อมส่งต่อไปยังแหล่งรีไซเคิลต่าง ๆ

ขยะพลาสติกรีไซเคิลได้อย่างไร

                ก่อนจะนำขยะพลาสติกจากผู้บริโภคและผู้ผลิตสินค้าพลาสติกมารีไซเคิลได้ ทางโรงงานจะมีขั้นตอนดังนี้

1. ตรวจสอบและคัดแยกประเภทพลาสติกก่อน เพราะบางอย่างไม่สามารถนำมารีไซเคิลด้วยกันได้
2. ทำความสะอาดพลาสติกด้วยการผ่านน้ำ และตากแห้ง ก่อนนำไปบดโม่เป็นชิ้นเล็ก ๆ สำหรับเตรียมหลอม
3. ผสมแม่สีกับเศษพลาสติก เพื่อให้เม็ดพลาสติกมีเฉดสีเดียวกัน
4. นำเศษพลาสติกมาหลอมด้วยความร้อน กลายเป็นพลาสติกเหลว และเข้าสู่กระบวนการทำเม็ดพลาสติกเป็นลำดับสุดท้าย